กล้อง

Nexus 5X และ Nexus 6P ใช้กล้องหลังตัวเดียวกัน มีความละเอียด 12.3 MP, ขนาดพิกเซล 1.55 ไมครอน, รูรับแสง f/2.0 มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสโดยมีเลเซอร์ช่วย และแฟลช LED คู่ทูโทน พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K

แอพกล้องที่มากับเครื่องคือ Google Camera ซึ่งมีลูกเล่นคือ พานอราม่า, Photo Sphere และ สโลวโมชั่น

ภาพตัวอย่างทั้งหมดถ่ายด้วยโหมดออโต้ ไม่มีการปรับแต่งใดๆ สามารถคลิกเข้าไปดูภาพใหญ่เพื่อดู EXIF ได้ครับ

จากการใช้งานก็รู้สึกประทับใจกับคุณภาพของภาพ กล้องสามารถเก็บรายละเอียดได้ชัดเจน มีสีใกล้เคียงความเป็นจริงมาก เรียกว่าไวท์บาลานซ์ดีสุดๆ การโฟกัสสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว เราสามารถเลือกจุดวัดแสงได้ ซึ่งบางครั้งก็จะได้ภาพที่แสงโอเวอร์หรืออันเดอร์มาก แต่ด้วยโหมด HDR+ ที่สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ (เลือกเปิด-ปิดเองได้เช่นกัน) ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้

ในสภาวะแสงน้อย กล้องของ Nexus 5X จะฉายแววออกมาทันที ระบบจะเปิดโหมด HDR+ ให้อัตโนมัติ ภาพที่ได้ไม่มืด มีสีสันสดใสมากและสีไม่เพี้ยน นอยซ์สังเกตไม่ได้เลยถ้าไม่ซูมไปใกล้มากๆ ถึงกระนั้นนอยซ์ก็ยังน้อยมากอยู่ดี

ตัวอย่างพานอรามา

ตัวอย่างวิดีโอ 4K

แถมด้วยสโลวโมชั่น 120 FPS สักหน่อย ไฟล์ที่ได้จะเป็นเฟรมเรต 120 FPS เลยครับ (ในเว็บ XDA มีคนทำแอพ CameraX ขึ้นมา ซึ่งทำให้ถ่ายวิดีโอได้ถึง 240 FPS, มีระบบลดการสั่น และสามารถถ่ายภาพรัวได้)

ตั้งแต่แอนดรอยด์ 5.0 เป็นต้นมาก็มีการเพิ่ม API ชื่อ Camera2 ลงไป ทำให้นักพัฒนาแอพสามารถเพิ่มฟีเจอร์การควบคุมโฟกัส ความเร็วชัตเตอร์ รวมทั้งการถ่ายภาพ RAW ได้ด้วย โดยสำหรับ Nexus 5X และ 6P จะต้องดาวน์โหลดแอพอื่นๆ เช่น Camera FV-5 หรือ Manual Camera มาใช้แทน เนื่องจากแอพ Google Camera ไม่สามารถใช้ถ่าย RAW ได้ (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) จากการทดลองผ่านแอพ Camera FV-5 ก็ได้ไฟล์ออกมาเป็น .DNG ครับ เวลาปรับแต่งแล้วคุณภาพก็ดีใช้ได้

เสียง

เสียงจากลำโพงของ Nexus 5X (มีตัวเดียว อยู่ด้านล่างของหน้าจอ) ออกแนวแบนๆ ไม่ใส และเบสก็แทบไม่มีเลย หากเร่งเสียงเกิน 70% จะเริ่มได้ยินเสียงแตก ถือเป็นจุดด้อยของ Nexus 5X ในเรื่องความบันเทิง

แบตเตอรี่

จากการใช้งานของผม (4G, เปิดเน็ตทิ้งไว้บางช่วง, ใช้ไลน์, ใช้เฟซบุ๊กผ่านแอพ Metal, ถ่ายรูปบ่อย, เข้าเว็บผ่าน Chrome) แบตเตอรี่ของ Nexus 5X สามารถอยู่รอดหนึ่งวันได้สบายๆ และยังมีเหลืออีกประมาณ 20% ในแต่ละวัน แต่หากวันไหนแบตลดลงไปต่ำกว่า 15% ก็ยังมีโหมด Doze ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้นานพอสมควรครับ เรียกว่ายังไงก็พ้นหนึ่งวันแน่นอน

การชาร์จสามารถทำได้รวดเร็ว สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 100% ได้ในเวลาเพียง 1.30 – 1.40 ชั่วโมงเท่านั้น ผ่านสายชาร์จและอแด็ปเตอร์ที่ให้มาในกล่อง (จ่ายไฟที่ 3A) เรียกว่าเวลารีบๆ ก็ยังสามารถชาร์จไฟได้ประมาณหนึ่ง

สรุป

โดยรวมแล้ว Nexus 5X ถือเป็นมือถือคุณภาพดีเครื่องหนึ่งที่อาจจะหาซื้อได้ไม่ง่ายนักในประเทศไทย ระบบภายในแน่นอนว่าเสถียรจริงตามสไตล์ Nexus แถมกล้องในรุ่นนี้ยังมีคุณภาพที่น่าประทับใจ ฉีกภาพเดิมๆ ของกล้องตระกูล Nexus ทิ้งไปอย่างหมดจด เทคโนโลยีที่มีมากับ Nexus 5X ก็การันตีได้เลยว่ามันจะยังทันสมัยไปอีกอย่างน้อยก็ 3-4 ปี เพราะมีทั้ง Nexus Imprint, 4G LTE, VoLTE, VoWiFi, อัดวิดีโอ 4K และด้วยความที่เป็น Nexus ก็มั่นใจได้เลยว่าอัพเดตแอนดรอยด์ได้อีกนานครับ