ลำโพงมอนิเตอร์ คือลำโพงที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานของสตูดิโออัดเสียง มีไว้เพื่อการสร้างหนัง จัดรายการวิทยุ หรือแม้แต่โฮมสตูดิโอ เป็นลำโพงที่ตอบสนองต่อเสียงในย่านต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยลำโพงชนิดนี้จะมีลักษณะของเสียงที่ Flat คือเสียงที่มีความใกล้เคียงกับเสียงจริงมากที่สุด เป็นเสียงที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งแต่อย่างใด เพื่อการผลิตงานเกี่ยวกับเสียงออกมาให้ได้เสียงที่เที่ยงตรงที่สุดนั่นเอง
ใครที่กำลังทำเพลงหรือมิกซ์เสียงต่าง ๆ จึงต้องใช้งานลำโพงมอนิเตอร์อย่างแน่นอน แล้วการเลือกซื้อลำโพงมอนิเตอร์นั้นก็ย่อมแตกต่างกับลำโพงชนิดอื่น ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นเราจะมานำเสนอ 5 เคล็ดลับในเลือกซื้อลำโพงมอนิเตอร์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้! จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย
[Advertorial] บทความนี้ได้รับการสนับสนุนและจัดเตรียมโดย Mercular ประเทศไทย
ดูแบรนด์
ในส่วนของข้อแรกที่ควรคำนึงถึงเมื่อจะเลือกซื้อลำโพงมอนิเตอร์นั่นก็คือ แบรนด์ เนื่องจากในปัจจุบันนั้นลำโพงมอนิเตอร์ต่างก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบรนด์ โดยที่บางแบรนด์นั้นก็มุ่งสร้างลำโพงในหมวด Professional Audio โดยเฉพาะ และก็อีกหลากหลายแบรนด์ที่มีลำโพงสำหรับ Entertainment Speaker และ Monitor Speaker พร้อมกับแบ่งออกมาเป็นซีรีส์ย่อย ๆ อีกมากมาย
ดังนั้นในกรณีที่จะใช้สำหรับแต่งเพลงหรือมิกซ์เสียงนั้นก็ควรมองหาลำโพงเฉพาะทาง ก็ให้เลือกซื้อลำโพงจากแบรนด์ที่เน้นลำโพงด้าน Professional Audio โดยเฉพาะจะดีกว่า เนื่องจากประสบการณ์ และเทคโนโลยีนั้นจะพัฒนามาในด้านนี้โดยเฉพาะ ไม่ต้องไปสนใจถึงฟีเจอร์พิเศษเพิ่มเติมอื่น ๆ เพื่อการที่เรานั้นจะได้ลำโพงที่ให้เสียงเที่ยงแท้ ทำให้สามารถมั่นใจถึงเสียงที่เราต้องการมากกว่าแบรนด์ที่มีลูกเล่นเยอะ เพราะแบบนั้นจุดประสงค์ของเราจะไม่ได้รับการตอบสนองอย่างเต็มที่เท่าที่ควรนั่นเอง
ความเหมาะสมของพื้นที่และความดัง
ใครที่มีห้องอัดส่วนตัวอยู่แล้วนี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงเลยนั่นก็คือพื้นที่ของห้องตัวเอง เพราะขนาดของห้องนั้นส่งผลต่อความดังของลำโพง ถ้าเรามีห้องที่ใหญ่แต่ซื้อลำโพงที่ไม่ได้มีเสียงดังมากมาใช้นั้น เสียงก็จะได้ยินไม่ทั่วถึง ทำให้เราไม่สามารถจับเสียงที่ต้องการหรือถูกต้องได้ตามต้องการ เช่น มีห้อง Studio ขนาดเล็ก ที่สามารถจุคนได้ประมาณ 4 คน มีความกว้างรวมยาวราว ๆ 4 ตารางเมตร ตัวลำโพงมอนิเตอร์ที่ควรเลือกมานั้นก็ควรที่จะมีขนาดกลางหรือ 4 นิ้วขึ้นไป หรือถ้าเป็นห้อง Studio ทางยาวและกว้างกว่า 4 ตารางเมตร สามารถอัดคนในห้องได้หลายคน ก็ควรใช้ลำโพงที่มีขนาด 6 นิ้วขึ้นไป เพื่อที่จะสามารถขับเสียงได้ดังและกว้าง จะได้ยินอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
ถ้าสถานที่นั้นเป็น Home Studio ขนาดเล็กราว 4 ตารางเมตร ลำโพงขนาดเล็กราว ๆ 3.5 นิ้วที่สามารถวางบนโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเกมมิ่งได้นั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว หากใช้ลำโพงที่ใหญ่กว่าขนาดของห้องนั้นบางครั้งอาจจะเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะยิ่งไซส์ใหญ่ ราคาก็ยิ่งสูงขึ้นนั่นเอง
ไม่เพียงแค่ขนาดพื้นที่เท่านั้น การจัดวางลำโพงหรือติดตั้งลำโพงในห้องก็สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นควรเลือกมุมที่วางแล้วจะสามารถได้ยินเสียงลำโพงไปทั่วห้องจะดีที่สุด
ความอ่อนไหวต่อย่านเสียงอื่น
ความอ่อนไหวต่อย่านเสียงอื่นนั้นก็ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่เราควรจะเลือกดูให้ดี ๆ ในการจะซื้อลำโพงมอนิเตอร์นี้ เนื่องจากตัวลำโพงมอนิเตอร์ที่ดีนั้นจะต้องมอบเสียงที่เที่ยงตรง Flat แบนสุด ๆ ไม่มีเสียงในย่านอื่นเข้ามาแทรกแซง ซึ่งหากมีย่านเสียงไหนโดดเด่นหรือเพี้ยนขึ้นมาแล้วล่ะก็ตัวลำโพงต้องสามารถแสดงเสียงนั้นให้ได้ยินในทันที เพื่อที่ผู้ใช้งานนั้นจะได้ทำการแก้ไขและปรับจูนได้อย่างทันท่วงที
การที่จะได้ยินเสียงย่านอื่นที่โดดดออกมาได้อย่างชัดเจนนั้นขนาดของ Driver Woofer ที่ลำโพงควรจะมีก็คือขนาด 6 นิ้วขึ้นไปเป็นอย่างต่ำ ใครที่คิดว่าลำโพง 5.1 ใช้แทนได้ไหมก็ขอบอกเลยว่าไม่ได้ เนื่องจากไดรเวอร์ที่ใหญ่จะมีความสามารถในการตรวจสอบเสียงย่านต่ำได้อย่างแม่นยำและมีความละเอียดที่สูงมาก เพราะถ้าไดรเวอร์นั้นขนาดเล็กกว่านี้อาจจะรองรับย่านความถี่เสียงของย่านต่ำได้ไม่ทั้งหมด รวมถึงการให้เสียงที่อาจจะดังไม่เพียงพอและเกิดความคลาดเคลื่อนในการทำเพลงได้นั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้ได้เสียงที่แม่นยำก็ควรเลือกให้ดี ๆ ก่อนจะซื้อมาใช้งาน
สไตล์ของเสียง
นี่น่าจะถือว่าเป็นมาตรฐานของการซื้อสินค้าประเภทเครื่องเสียงแทบทุกชนิด นั่นก็คือการไปที่ร้านค้าแล้วทำการฟังด้วยหูตัวเองไปเลยว่าแนวเสียงของลำโพงตัวที่เรากำลังสนใจนั้นเป็นอย่างไร
การฟังลำโพงมอนิเตอร์นั้นให้ใช้ทฤษฏีถูกใจตนเองเป็นหลักเลย เนื่องจากลำโพงมอนิเตอร์ที่ดีนั้นจะต้องมีย่านเสียงที่แบน ตรง ไร้เสียงย่านอื่นเข้ามาแทรกแซง ห้ามมีการปรับจูนหรือ Colour เสียงแม้แต่นิดเดียว เพราะอาจส่งผลเวลานำไปใช้งานจริง ๆ เนื่องจากอาจทำให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงนั้นเกิดผิดเพี้ยน
ดังนั้นการเดินเข้าไปในร้านและเลือกฟังด้วยหูของตัวเองนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งในการเลือกซื้อลำโพงมอนิเตอร์นั้นคนที่มีรสนิยมการฟังเพลงที่เน้นความเป็นต้นฉบับ ไม่ต้องปรุงแต่งทำนองหรือดนตรีมากหรือไม่แต่งเลย ก็สามารถซื้อมาไว้ใช้งานแบบทั่วไปที่เน้นฟังเพลงแบบแบน ไม่ต้องมีลูกเล่นเน้นเสียงอะไรมากมายเลย
ราคาของลำโพง
ในส่วนของปัจจัยสุดท้ายที่เราจะมาบอกนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ในการซื้อลำโพงมอนิเตอร์เลย นั่นก็คือ ราคาลำโพงมอนิเตอร์ โดยปกติแล้วเหล่าลำโพงมอนิเตอร์นั้นจะมีราคาที่สูงพอสมควร เนื่องจากเป็นสินค้าในกลุ่ม Professional Audio เนื่องจากว่าตัวลำโพงมอนิเตอร์นั้นได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการทำงานอย่างพวกมิกซ์เสียงหรือบันทึกเสียงโดยเฉพาะ
ระดับของราคานั้นก็มีให้เลือกตั้งแต่หลักพันจนไปถึงหลักแสนกันเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ใช้งานกลุ่ม Studio หรือมืออาชีพนั้นย่อมที่จะเลือกสินค้าในระดับราคาสูง ๆ เพื่อแลกกับคุณภาพและความแม่นยำของเสียงที่เรียกได้ว่าเที่ยงตรง และคุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องจ่ายไป เพื่องานเพลงที่จะออกมาอย่างมีคุณภาพมากที่สุด แต่กรณีของเหล่ามือใหม่หรือผู้ที่อยากนำมาใช้งานที่บ้านสไตล์ Home Audio ก็อาจจะต้องคำนึงถึงงบที่ตยเองมีกันสักหน่อย ว่าอยู่ในระดับใด มีการจำกัดงบไว้หรือไม่
เมื่อได้ระดับราคาที่พึงพอใจแล้วจึงไปลองฟังที่ร้าน และตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ ทั้งเรื่องของเสียงที่ออกมาจากลำโพง ลักษณะรูปร่างหน้าตาที่ลำโพงนั้นได้รับการดีไซน์ และขนาดของลำโพงว่าเหมาะสมสำหรับห้องของเราหรือไม่ ซึ่งถ้าใจกับงบที่กำมานั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็ไม่ต้องรออะไรแล้วครับ ควักเงินออกมาแล้วจ่ายพร้อมนำลำโพงตัวโปรดนี้กลับไปใช้งานกันเลย
เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 เคล็ดลับในเลือกซื้อลำโพงมอนิเตอร์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้! ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะนำไปปรับใช้กันยังไง เพราะว่าอาจจะมีบางคนที่ชื่นชอบลำโพงขนาดเล็ก สามารถจัดพื้นที่บนโต๊ะได้โดยง่ายเพื่อนำไปวางแถว ๆ ขาตั้งจอคอม เพื่อให้สามารถฟังจากหน้่าคอมได้เลย หรือใครจะชอบตกแต่งไว้ตามมุมต่าง ๆ ของห้องก็คงต้องเลือกลำโพงที่ใหญ่ขึ้นมา แต่อย่าลืมว่า ลำโพงมอนิเตอร์จะให้เสียงแบบ Flat ที่เป็นเสียงแบบแบนเท่านั้น ใครที่อยากได้เสียงย่านอื่นเน้นเข้ามาด้วย ควรไปซื้อลำโพงแบบอื่นดีกว่า เพราะถ้าคุณไม่ชอบเสียงย่านเดียวและไปลองซื้อมาใช้ อาจจะต้องเสียใจที่ได้รับเสียงไม่ตรงกับที่คุณต้องการ แต่สำหรับใครที่อยากแต่งเพลง หรือมิกซ์เสียงแล้ว ลำโพงมอนิเตอร์นี่แหละคือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องมี