สองนักวิจัยด้านความปลอดภัย ค้นพบช่องโหว่ในระบบหลังบ้านของซูบารุ ทำให้สามารถเข้าไปควบคุมอุปกรณ์ในรถยนต์ เช่น บีบแตร ปลดล็อกรถ และสตาร์ทเครื่องได้ รวมไปถึงดูประวัติตำแหน่งของรถย้อนไปได้ถึงหนึ่งปี

Shubham Sha และ Sam Curry นักวิจัยด้านความปลอดภัย ได้ทดลองศึกษา ‘Starlink‘ ฟีเจอร์อินเทอร์เน็ตที่อยู่ในรถยนต์ซูบารุของตนเอง จนนำไปสู่การทดลองเจาะเข้าไปในระบบหลังบ้านของ Starlink

Starlink เป็นฟีเจอร์บนรถยนต์ซูบารุในตลาดอเมริกาเหนือและญี่ปุ่น ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถรับข่าวสาร ฟังเพลงออนไลน์ ใช้งานฟีเจอร์ด้านอินเทอร์เน็ตต่างๆ รวมไปถึงใช้บริการขอความช่วยเหลือได้

Shubam และ Sam ได้ทดลองล็อกอินเข้าระบบหลังบ้านด้วยการคาดเดาอีเมลของพนักงานเพื่อใช้เป็นยูสเซอร์เนม และกด ลืมรหัสผ่าน เพื่อตั้งรหัสใหม่ ทั้งคู่พบว่า แม้ระบบจะมีคำถามเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี แต่ระบบการยืนยันนั้นเป็นแบบ client side (ทำงานบนเบราว์เซอร์) แทนที่จะทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ทั้งคู่สามารถบายพาสคำถามและเข้าไปตั้งรหัสผ่านใหม่ได้

นอกจากนี้ ระบบหลังบ้านยังมีป๊อบอัปให้ยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) แต่ก็พบว่าสามารถบายพาสได้อย่างง่ายดาย ด้วยการนำโค้ดบรรทัดนั้นออกไป เพราะเป็นการทำงานแบบ client side เช่นกัน

เมื่อเข้ามาสู่ระบบหลังบ้านก็พบว่าสามารถสั่งการล็อกรถ ปลดล็อกรถ บีบแตร สตาร์ทเครื่อง รวมทั้งดูตำแหน่งที่รถเคยอยู่ย้อนหลังไปได้ถึง 1 ปี

ทั้งคู่ได้ทำการทดลองเพิ่มเติม และพบว่าสามารถเพิ่มสิทธิ์ให้ลูกค้า Starlink เพิ่มรถคันอื่นเข้ามาในบัญชีของตนเองได้ และมีสิทธิ์ในการควบคุมรถข้างต้นเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องได้รับการยืนยันด้วยวิธีใดจากเจ้าของรถเดิม

ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่บริษัทรถยนต์จะมีระบบหลังบ้านเช่นนี้ในการให้บริการด้านความช่วยเหลือฉุกเฉินต่างๆ และซูบารุเองก็ได้ให้ข้อมูลว่า พนักงานที่มีสิทธิ์เข้าถึงระบบเหล่านี้ได้รับการอบรมอย่างดี และมีการเซ็นสัญญารักษาความลับ (NDA) แต่สิ่งที่อันตรายคือระบบหลังบ้านนี้มีการป้องกันที่หละหลวมอย่างมาก

ทั้งนี้ Shubam และ Sam ได้รายงานการค้นพบให้แก่ซูบารุ และทางบริษัทก็ได้แก้ไขช่องโหว่เหล่านี้แล้วภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับแจ้ง

แหล่งข้อมูล: Sam Curry, TechSpot
ภาพปกโดย Ryunosuke Kikuno จาก Unsplash