ช่วงปีที่ผ่านมา เราเห็นข่าวเกี่ยวกับ AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาโดยตลอด และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่โฆษณาการนำ AI มาใช้ก็เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดแทบทุกวัน หัวเหว่ยก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ลงเรือลำนี้มาเช่นกัน ด้วยการนำฟีเจอร์ที่ผนวก AI ด้านต่างๆ มาไว้ในสมาร์ทโฟน Mate 10 รุ่นใหม่นี้
https://www.youtube.com/watch?v=0Js4X_et70w
Huawei Mate 10 และ Mate 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่มีดีไซน์ตามสมัยนิยม นั่นคือขอบจอบาง หน้าจอใหญ่ ใช้อัตราส่วนหน้าจอแบบ 18:9 (สำหรับรุ่น Pro) และไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มม. แล้ว (รุ่น Pro) ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงมีกลิ่นอายที่คุ้นเคยติดมาจาก Huawei Mate 9
AI มาจริงหรือแค่ “กิมมิค”
สิ่งที่หัวเหว่ยโฆษณามาตั้งแต่ก่อนจะเปิดตัวก็คือการเป็น “AI phone” หรือโทรศัพท์แห่งปัญญาประดิษฐ์ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือภายในตัวเครื่องมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Kirin 970 ที่มีหน่วยประมวลผลประสาทเทียม หรือ NPU (Neural-Network Processing Unit) มาด้วย ทำให้ประมวลผลการทำงานด้านปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ เร็วขึ้นเนื่องจากออกแบบมาเพื่อทำหน้าที่เฉพาะทางของมันเองเลย
แต่บน Huawei Mate 10 จะมีฟีเจอร์ด้าน AI อะไรให้เราได้ใช้งานกันบ้าง (หรืออย่างน้อยก็ให้ NPU ได้ทำหน้าที่) ระบบเหล่านั้นก็เช่นฟีเจอร์ต่างๆ ในกล้อง (ซึ่งจะขอพูดถึงในหัวข้อถัดๆ ไป), การตัดเสียงรบกวนขณะโทรศัพท์รวมทั้งทำให้เสียงของเราชัดขึ้น, และแอพสำหรับแปลข้อความ การสนทนา และรูปภาพเป็นภาษาอื่นแบบเรียลไทม์ เป็นต้น
ก่อนหน้านี้บน Huawei P10 หัวเหว่ยก็ได้ใส่ระบบ machine learning (การที่ระบบเรียนรู้ด้วยตนเอง) ให้โทรศัพท์ศึกษาลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อให้คงความเร็วของเครื่องไว้ให้ผู้ใช้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล ตัวผมเองก็ใช้ P10 อยู่แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเจ้าระบบ machine learning นี้มันทำงานได้ผลหรือไม่ หรือมันทำงานจริงๆ หรือเปล่า แต่ก็บอกได้ว่ามันยังใช้งานได้ลื่นไหลดีครับ และแบตเตอรี่ก็อยู่ได้เต็มวันสบายๆ
กล้องคู่ Leica
จุดเด่นของสมาร์ทโฟนเรือธงจากหัวเหว่ยคือการใช้กล้องคู่ที่ได้ Leica มาการันตีคุณภาพ และใน Huawei Mate 10 นี้ก็ยังคงมีกล้องคู่แบบสีและโมโนโครมเช่นเคย โดยกล้องที่เป็นสีปกติมีความละเอียด 12 MP ส่วนกล้องโมโนโครม (ขาวดำ) มีความละเอียด 20 MP และทั้งคู่มาพร้อมระบบกันสั่นแบออพติคอล (OIS), มีรูรับแสงกว้าง f/1.6, รองรับฟีเจอร์ Hybrid Zoom (ซูมแล้วยังคมชัดพอสมควร) ที่ระยะ 2 เท่า, และใช้ระบบโฟกัสแบบ PDAF, CAF, เลเซอร์ และตรวจจับความลึก
ฟีเจอร์ด้าน AI ที่มากับการถ่ายภาพก็คือ สามารถจำแนกชนิดของวัตถุในภาพได้ เช่น ดอกไม้ ท้องฟ้า อาหาร พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ฯลฯ เพื่อปรับสี คอนทราสต์ ความสว่างและอื่นๆ อย่างอัตโนมัติ
นอกจากนี้ฟีเจอร์ด้านการเบลอหลังทั้งบนกล้องหน้าและกล้องหลังก็ได้รับการช่วยเหลือจากระบบ AI ด้วยเช่นกัน โดยระบบจะเรียนรู้จากภาพถ่ายบุคคลที่ผ่านมา และในด้านความเป็นส่วนตัว หัวเหว่ยก็บอกว่าการประมวลผลนี้จะทำงานอยู่บน NPU ที่มีอยู่ในเครื่อง ไม่ส่งไปประมวลผลบนเซิร์ฟเวอร์ภายนอก
ต่อเมาส์และคีย์บอร์ดกลายเป็นคอมฯ
Huawei Mate 10 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ แอนดรอยด์ 8.0 ครอบทับด้วยระบบ EMUI 8.0 ซึ่งในเวอร์ชันนี้ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมๆ เพียงแค่ต่อหน้าจอ เมาส์และคีย์บอร์ดเข้ากับเครื่อง (คล้ายกับ DeX ของซัมซุง และ Continuum ของไมโครซอฟท์) หรือจะแค่ใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเมาส์สำหรับคอมพิวเตอร์เฉยๆ ก็ได้
ราคาและการวางจำหน่าย
- Huawei Mate 10 ราคา 699 ยูโร ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่ายในไทย
- Huawei Mate 10 Pro (6 GB + 128 GB) ราคา 799 ยูโร ขายในไทยเดือนพฤศจิกายน
สเปกเครื่อง
Huawei Mate 10
- หน้าจอ LCD ขนาด 5.9 นิ้ว อัตราส่วน 16:9
- ความละเอียด 2560×1440 ที่ 499 ppi
- คอนทราสต์ 1500:1
- หน่วยประมวลผล Kirin 970 แปดคอร์ พร้อมหน่วยประมวลผลประสาทเทียม (NPU)
- กล้องหลัง 12 MP (RGB) และ 20 MP (ขาวดำ) f/1.6 พร้อม OIS
- บันทึกวิดีโอสูงสุดที่ 4K
- กล้องหน้า 8 MP f/2.0
- แรม 4 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh ชาร์จเร็ว
- NFC, Bluetooth 4.2, USB Type-C, DisplayPort 1.2, Infrared Remote Control
Huawei Mate 10 Pro
(ส่วนที่ต่าง)
- หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว อัตราส่วน 18:9
- ความละเอียด 2160×1080 ที่ 402 ppi
- คอนทราสต์ 70000:1
- แรม 4 และ 6 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 64 และ 128 GB
- กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
- ไม่มีช่อง 3.5 มม. (หูฟังในกล่องเป็น USB Type-C)