ตอนนี้ใครหลายคนกำลังเล็งๆ อยากจะสอย ASUS Zenfone 5 มาเป็นเจ้าของอยู่ นั่นเป็นเพราะสเปคที่แรงเท่าสมาร์ทโฟนระดับกลางของแบรนด์อื่นๆ เช่นซัมซุง, HTC ภายใต้ราคาที่เห็นแล้วต้องเซอร์ไพรส์ เพราะถือว่าถูกสุดๆ ในสเป็คระดับนี้ เอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับเจ้า ASUS Zenfone 5 กันครับ ว่ามันดีและน่าซื้อสมคำร่ำลือขนาดไหน
[su_note radius=”6″]รีวิวนี้เป็นรีวิวสมาร์ทโฟนครั้งแรกของ Thai App Update เลยครับ ดังนั้นหากมีข้อบกพร่องประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ แล้วทางเว็บจะนำไปปรับปรุงในรีวิวครั้งต่อๆ ไปครับ :)[/su_note]
[su_note radius=”6″]ภาพประกอบทั้งหมดในรีวิวนี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ของเว็บไซต์ Thai App Update ทั้งสิ้น[/su_note]
แกะกล่อง
กล่องของ Zenfone 5 นั้นออกแบบมาอย่างเรียบๆ ครับ ไม่ได้มีอะไรมาก ด้านข้างกล่องก็มีรายละเอียดสเป็คเครื่องตามปกติ พอเลื่อนกล่องออกมาก็จะเจอน้อง Zenfone 5 วางอยู่
พอนำตัวเครื่องออกมาและเปิดขึ้นมาอีกชั้นก็จะมีอุปกรณ์ดังนี้ครับ
- คู่มือผู้ใช้
- รายละเอียดการรับประกัน
- อแด็ปเตอร์
- สาย (mini) USB
- หูฟังและยางแบบเปลี่ยนได้ 2 ขนาด
รูปลักษณ์ภายนอก
ด้านหน้าของตัวเครื่องมีโลโก้ ASUS, ลำโพงสนทนา, กล้องหน้า, เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ, เซ็นเซอร์วัดแสง และปุ่มนำทางแบบ Capacitive สามปุ่ม
ด้านหลังนั้นมีเพียงกล้องหลัง, แฟลช LED, โลโก้ ASUS และลำโพง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องไม่มีปุ่มอะไรเลย มีเพียงช่องสำหรับใช้นิ้วงัดเปิดฝาหลังเท่านั้น ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และไมโครโฟน ส่วนด้านล่างก็มีช่องมินิ USB และไมโครโฟนครับ
ตัวเครื่องออกแบบมาได้สวยงามสวนทางกับราคา ที่คนมักจะมองว่าสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงมักมีหน้าตาที่ไม่ดึงดูด โดย ASUS Zenfone 5 นั้นมีการออกแบบตัวเครื่องที่เรียบง่าย จากการใช้งานดูก็รู้สึกเหมือนฝาหลังจะเลอะได้ง่ายไปหน่อย แต่ก็สามารถใช้ผ้าเช็ดๆ ออกได้ครับ
หน้าตาภายใน
ZenUI
Zenfone 5 (รวมถึงสมาร์ทโฟนในตระกูล Zenfone รุ่นอื่นๆ ของ ASUS) นั้นใช้แอนดรอยด์ 4.3 ที่ครอบทับด้วยอินเทอร์เฟซ ZenUI ของ ASUS เอง โดย ZenUI นี้เป็นอินเทอร์เฟซแบบแบน (flat) ที่มีสีสันออกไปทางแนวพาสเทล ทำให้ดูแล้วสบายตาครับ
โฮมสกรีน
โฮมสกรีนของ Zenfone 5 นั้นเป็น ASUS Launcher ซึ่งมีความเรียบง่ายตามแบบ ZenUI สามารถปรับแต่งหน้าตาได้หลากหลาย สิ่งหนึ่งที่ผมชอบจากการเปลี่ยนภาพพื้นหลังคือ เราสามารถเลือกโทนสี (tint) ของภาพพื้นหลังให้เข้ากับธีมโดยรวมได้ อย่างเช่นภาพภูเขาด้านบนครับ ผมเลือกใส่สีฟ้าเข้าไปเล็กน้อย (น้อยมากจนสังเกตแทบไม่ได้) นอกจากนี้ก็ลากแอพจาก Drawer มาเป็นชอร์ทคัท หรือลากวิดเจ็ตมาวางได้ตามปกติเหมือนแอนดรอยด์ทั้วไป ซึ่งวิดเจ็ตต่างๆ ก็ทำออกมาได้สวยงามเรียบหรูมากๆ เลยครับ
อินเทอร์เฟซอื่นๆ
แอพนาฬิกา แอพไฟฉาย
แอพโทรศัพท์ แอพเพลง
แอพแกลเลอรี่
การแจ้งเตือนและการตั้งค่าด่วน
เราสามารถลากลงมาจากด้านบนซ้ายหรือขวาได้จากหน้าจอนี้ได้เช่นกัน เพื่อสลับระหว่างการแจ้งเตือนและการตั้งค่าด่วน
กล้อง
สิ่งหนึ่งที่จะขาดจากการรีวิวไปไม่ได้เลยก็คือเรื่องของกล้อง เพราะสมาร์ทโฟนแทบทุกรุ่นมักจะโชว์ลูกเล่นมาทางกล้องกันซะมาก และผู้ใช้เองก็ให้ความสนใจเรื่องกล้องเป็นอันดับต้นๆ ด้วย ซึ่ง Zenfone 5 เองก็มีลูกเล่นในกล้องใส่มาให้เยอะพอสมควรครับ แต่คุณภาพของภาพที่ได้โดยรวมก็ไม่ได้ดีมาก เพียงแต่ไม่ได้แย่เท่านั้น ซึ่งก็เหมาะสมกับราคาระดับนี้ครับ
ภาพนิ่ง
กล้องของ Zenfone 5 นั้นมีฟีเจอร์เยอะพอสมควร โดยฟีเจอร์หลักต่างๆ ของกล้องก็มีดังนี้ครับ
- Auto – ที่จริงก็กะว่าจะไม่รวมเข้ามาในรายการฟีเจอร์แล้วครับ แต่เห็นว่ามันฉลาดจริงๆ คือระบบจะเสนอให้เราเปิดโหมด HDR หากกำลังถ่ายภาพย้อนแสงอยู่ หรือเสนอให้เราเปิดโหมดแสงน้อยเมื่อกำลังถ่ายภาพในที่มืดๆ เป็นต้นครับ
- Time rewind – โหมดนี้มีประโยชน์มากสำหรับการถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หาไม่ได้ง่ายๆ โดยตัวเครื่องจะถ่ายภาพก่อนกดชัตเตอร์ 2 วินาที และหลังกดชัตเตอร์อีก 1 วินาที จากนั้นเราสามราถเลือกภาพถ่ายที่ดีที่สุดได้
- HDR – การถ่ายภาพย้อนแสง หรือทำให้มีสีสันขึ้นมาอีกเล็กน้อย
- Panorama – แพนกล้องเพื่อถ่ายพาพาโนราม่า
- Night – ใช้สำหรับถ่ายภาพกลางคืน จะสว่างกว่าโหมดอัตโนมัติ
- Low light – ใช้ถ่ายภาพในที่ๆ แสงน้อย แต่ลดความละเอียดของภาพมาเหลือ 1600 x 900 พิกเซล (2M) จะให้ภาพที่สว่างกว่าโหมดกลางคืน และสว่างกว่าโหมดอัตโนมัติอย่างเห็นได้ชัด
- Selfie – ตามชื่อเลยครับ ใช้สำหรับถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลัง โดยให้เราเลือกจำนวนคนในภาพก่อน แล้วเมื่อกล้องตรวจพบหน้าคนตามจำนวนที่กำหนดแล้ว กล้องก็จะถ่ายภาพ 3 ภาพให้อัตโนมัติ เหมาะกับการถ่ายภาพเซลฟี่ที่ความละเอียดสูง
- Miniature – ก็คือการทำภาพแบบ tilt-shift นั่นเองครับ โดยถ่ายภาพมาแล้วใส่เอฟเฟ็กต์เบลอให้ดูเหมือนของในภาพมีขนาดเล็ก
- Depth of field – คือโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ โดยการใช้งานเพียงแค่เลือกจุดโฟกัสที่ต้องการแล้วแตะถ่ายภาพ ถือเครื่องนิ่งๆ แล้วระบบจะทำการปรับภาพให้อัตโนมัติ โดยผลลัพท์ที่ได้ก็เนียนอยู่พอสมควร แล้วแต่สถานการณ์ด้วย (วัตถุสั่นไหวก็จะได้ออกมาไม่ค่อยเนียน)
- Smart remove – ลบคนหรือวัตถุเคลื่อนไหวที่ไม่ต้องการออกจากภาพ
- All smiles – ถ่ายภาพติดต่อกัน 5 ภาพ แล้วเราสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าคนที่ต้องการให้ดูดีที่สุดได้
- Beautification – ถ่ายภาพแบบหน้าเนียนไร้เมคอัพ ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากแล้วนะครับสำหรับโหมดนี้ (ฮ่าๆๆ)
- GIF – ถ่ายภาพเคลื่อนไหวออกมาเป็นไฟล์ .gif
ภาพด้านบนนี้คือตัวอย่างการใช้งานฟีเจอร์ Time Rewind ครับ โดยเมื่อแตะถ่ายไปแล้ว ระบบจะให้เรามาเลือกภาพที่เราต้องการผ่านการหมุนวงแหวน หรือจะให้เครื่องเลือกภาพที่ดีที่สุดให้เราเลยก็ได้ด้วยการแตะที่ไอคอนรูปมงกุฏ นอกจากนี้เรายังสามารถเปลี่ยนเวลาที่ต้องการได้ใหม่ผ่านแอพแกลเลอรี่ได้ภายหลังด้วยครับ
วิดีโอ
โหมดถ่ายวิดีโอของ Zenfone 5 นั้นก็มีมาให้ 4 โหมดด้วยกัน คือโหมด Auto, Highlight (สำหรับที่แสงน้อย), Miniature และ Time lapse ครับ โดยสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p ครับ
แอพจาก ASUS
Easy Mode
อันนี้ก็ไม่เชิงเป็นแอพนะครับ แต่ไหนๆ ลันเชอร์ก็จัดเป็นแอพอยู่แล้วเลยรวมมาในหมวดนี้ด้วยเลย โดย Easy Mode นั้นก็มีหน้าที่ตามชื่อมันเลย คือเป็นลันเชอร์แบบง่ายๆ มีไอคอนแอพอันใหญ่ให้เข้าใช้งานและดูได้ง่ายๆ ครับ
Splendid
Splendid เป็นตัวช่วยสำหรับปรับโทนสีของหน้าจอตามความต้องการครับ สามารถปรับอุณหภูมิสี ทำหน้าจอให้สีสันสดใสได้
ตัวช่วยประหยัดพลังงาน
หน้าที่ของแอพนี้ก็ตามชื่อมันเลยครับ คือจะช่วยประหยัดพลังงานให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยมีโหมดการประหยัดอยู่สามโหมด ได้แก่ โหมดประหยัดพลังงานแบบพิเศษ โหมดที่ดีที่สุด และโหมดกำหนดเอง ซึ่งโหมดแบบสุดท้ายนี้เราจะเลือกฟีเจอร์หรือระบบต่างๆ ที่ต้องการจะปิดเพื่อประหยัดพลังงานได้ด้วยตนเอง
SuperNote
SuperNote เป็นแอพจดโน้ตที่มีประโยชน์มากครับ เพราะมันมีฟีเจอร์นึงที่เราสามารถเลือกให้แผ่นโน้ตมันลอยอยู่บนหน้าจอโดยไม่มีแอพอะไรมาบังมันได้ การจดโน้ตก็ทำได้ทั้งพิมพ์และวาดลงไปครับ
What’s Next
What’s Next เป็นเหมือนฮับ (Hub) ที่รวบรวมเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หมายถึงว่าพวกสภาพอากาศ ตารางนัดหมาย อะไรพวกนี้นะครับ ถือว่าสะดวกมากทีเดียวกับการเช็คเหตุการณ์ต่างๆ ว่าจะต้องทำอะไรต่อไปหรือเตรียมอะไรบ้างด้ยวแอพเพียงตัวเดียว
MyASUS
MyASUS เป็นแอพที่รวบรวมข่าวสาร ผลิตภัณฑ์ และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับ ASUS และผู้ใช้สามารถสนทนากับฝ่ายบริการลูกค้าของ ASUS ได้แบบสดๆ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ครับ
ภาพด้านล่างนี้คือตัวอย่างแอพอื่นๆ จาก ASUS ครับ
ภาพตัวอย่างจากกล้อง
หมายเหตุ: ภาพด้านล่างที่ถ่ายมาจากกล้องเป็นไฟล์ต้นฉบับทั้งหมด ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ และเพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นรายละเอียดจริงของภาพ ทางเราจึงไม่ได้ลดคุณภาพลงครับ
โหมดอัตโนมัติ
โหมด HDR
โหมดหน้าชัดหลังเบลอ
โหมดกลางคืน
โหมดแสงน้อย
โหมดพาโนราม่า
ภาพหน้าจอ
สรุป
ASUS Zenfone 5 นั้นถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวที่คุ้มค่าที่สุดตัวหนึ่งเลย เพราะด้วยราคาที่ไม่แพง (ราคา ณ ตอนรีวิวคือ 5,990 บาท) แถมยังได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีและมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเยอะขนาดนี้ บวกกับความสวยงามของทั้งระบบและตัวเครื่อง ก็นับว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ามากๆ เลยครับ ติดตรงที่กล้องนั้นคุณภาพไม่ได้เลิศเลอ แต่สำหรับการถ่ายในชีวิตประจำวันทั่วไปที่ไม่ได้เน้นคุณภาพมาก Zenfone 5 ก็ตอบโจทย์ได้ดีครับ เพราะมีลูกเล่นเยอะพอสมควร
ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนคุ้มค่าราคาประหยัดที่มีคุณภาพดี ผมก็ขอเชียร์ ASUS Zenfone 5 ให้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจด้วยแล้วกันนะครับ