โจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยชาวฮ่องกง ได้ถูกยึดโทรศัพท์ iPhone ไปในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนปีที่แล้ว ตำรวจฮ่องกงได้ใช้เวลารวมกว่า 21 ชั่วโมงในการนำประวัติการสนทนาและข้อมูลต่างๆ ออกมาตรวจสอบเพื่อใช้ในการสอบสวน
โทรศัพท์ของ โจชัว หว่อง มีการล็อคด้วยรหัสผ่านไว้ แต่ โจชัว หว่อง เพิ่งจะทราบในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า iPhone ของเขาได้ถูกตำรวจฮ่องกงเจาะระบบเข้าไปดูข้อมูล ภายหลังจากที่เขาได้รับหมายค้นและถูกจับกุมไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
แอกเนส เชาว์ นักเคลื่อนไหวซึ่งเป็นเพื่อนของ โจชัว หว่อง ซึ่งถูกจับกุมพร้อมกับ โจชัว หว่อง ก็ได้ถูกยึดโทรศัพท์ Google Pixel ของตนไปเช่นกัน แต่ตำรวจยังไม่สามารถเจาะระบบเข้าไปดูข้อมูลได้ และขณะนี้โทรศัพท์ของเธอก็ยังอยู่ในการดูแลของตำรวจ
จากการค้นข้อมูลของ Thai App Update โดยอ้างอิงจากทวีตของ โจชัว หว่อง เมื่อเดือนกันยายนที่แล้ว เขาบอกว่าตำรวจได้นำข้อความ 4 ข้อความที่ถูกส่งด้วย iPhone XR ของเขาไว้ใช้เป็นหลักฐาน ทั้งที่โทรศัพท์ยังถูกล็อคด้วยรหัสผ่านอยู่ ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าโทรศัพท์ดังกล่าวที่ถูกพูดถึงนั้นคือ iPhone XR เครื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถหาข้อมูลได้ว่า Google Pixel ของ แอกเนส เชาว์ นั้นเป็นรุ่นใด
ข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยโดย โจชัว หว่อง และ แอกเนส เชาว์ โดยทนายความของทั้งคู่ได้กล่าวว่าความเป็นส่วนตัวของทั้งคู่ต้องได้รับการปกป้องตาม Bill of Rights (สิทธิพื้นฐานของพลเมือง)
เลขานุการด้านความปลอดภัยของฮ่องกงให้ข้อมูลว่า โทรศัพท์ของ โจชัว หว่อง นั้นเป็นเพียงหนึ่งในโทรศัพท์อีกกว่า 3,700 เครื่องที่ตำรวจได้ยึดจากผู้ชุมนุมไป และทำการเจาะข้อมูลในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
อนึ่ง เดือนกันยายนปีที่แล้วศาลเกาลูนได้ออกหมายให้ตำรวจสามารถค้น “เนื้อหาดิจิทัลทุกประเภทในอุปกรณ์ดิจิทัลทุกประเภท” โดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ชาวฮ่องกงสองรายได้ยื่นขอให้ศาลฮ่องกงทบทวนการกระทำดังกล่าวว่าขัดต่อกฎหมายและ Bill of Rights ของฮ่องกงหรือไม่
การชุมนุมของชาวฮ่องกงที่ดำเนินมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้จุดประเด็นให้ชาวฮ่องกงรักษาความเป็นส่วนตัวในอุปกรณ์เทคโนโลยีของตนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอปพลิเคชัน Telegram ในการสนทนา และการเว้นการใช้บัตรเครดิต เป็นต้น
ภาพหัวข่าว: Studio Incendo / CC BY
แหล่งข้อมูล: QZ