นับว่าเป็นรุ่นที่ HTC เก็บความลับไว้ได้แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้นะครับสำหรับ HTC One หรือ M8 เพราะก่อนหน้านี้ก็มีภาพหลุดออกมาเยอะมากจนความน่าตื่นเต้นหายไปหมดแล้ว เอาเป็นว่ามาดูสเปคเครื่องจริงๆ กันดีกว่าครับ
- หน้าจอ 1080p ขนาด 5″ แบบ S-LCD3 ใช้กระจก Gorilla Glass 3
- Snapdragon 801 ที่ 2.3GHz
- แรม 2 GB
- หน่วยความจำในตัว 16 และ 32 GB
- รองรับ microSD สูงสุด 128 GB
- แบตเตอรี่ 2,600 mAh
- บลูทูธ 4.0, 802.11ac WiFi, รองรับ AWS, GPS, LTE, NFC, เซ็นเซอร์ accelerometer, gyroscope และบารอมิเตอร์
- กล้องหลัง UltraPixel 4 MP พร้อมระบบ OIS และเซ็นเซอร์ตรวจจับระยะ
- กล้องหน้า 5 MP
- แอนดรอยด์ 4.4 ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ Sense 6.0
สำหรับสิ่งที่เป็นที่น่าสนใจในรุ่นนี้ก็คือด้านหลังของตัวเครื่องจะมีกล้องสองตัว ซึ่งจริงๆ แล้วตัวหนึ่งเป็นกล้อง อีกตัวหนึ่งเป็นเซอร์เซอร์ตรวจจับระยะ ทำให้สามารถถ่ายรูปในสไตล์ถ่ายก่อนแล้วมาเปลี่ยนโฟกัสทีหลังได้ และยังสามารถเลือกใส่เอฟเฟกต์เฉพาะที่ตามระยะโฟกัสได้ด้วย กล้องยังมีความละเอียด 4 MP เท่าเดิม แต่มีเซ็นเซอร์รับภาพที่ใหญ่ขึ้น แบตเตอรี่นั้นสามารถใช้สนทนาได้ 20 ชั่วโมง และยังมีโหมดประหยัดพลังงานแบบสุดๆ ที่จะทำให้เครื่องสแตนด์บายได้ถึง 40 วัน
ด้านซอฟท์แวร์ มีการแจกพื้นที่เก็บข้อมูลบน Google Drive ขนาด 50 GB ให้ใช้ฟรี 2 ปี (เปลี่ยนจากปีที่แล้วที่ใช้ Dropbox) นอกจากนี้ BlinkFeed ก็ได้รับการปรับปรุงดีไซน์เพิ่มเติมให้ทันสมัยมากขึ้น และเปิดให้นักพัฒนาทำแอพให้ใช้งานกับ BlinkFeed ได้ โดยสองแอพแรกคือ Foursquare และ Fitbit
HTC One รุ่นใหม่นี้มีระบบ Motion Launch ที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามา โดยเมื่อเครื่องตรวจพบการเคลื่อนไหว (เช่นเราหยิบเครื่องขึ้นมา) เครื่องก็จะคอยรับคำสั่งจากเรา อย่างเช่นปัดหน้าจอไปทางขวาจะเป็นการเปิด BlinkFeed, การกดปุ่มปรับเสียงค้างไว้พร้อมหมุนเครื่องเป็นแนวนอนก็จะเป็นการเปิดกล้อง, เมื่อมีคนโทรเข้ามาก็เพียงหยิบโทรศัพท์มาแนบหูเป็นต้น ทั้งหมดนี้ทำได้โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ เคส Dot View ตามภาพด้านบนนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ดูการแจ้งเตือนได้เพียงใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่ตัวเคสสองที ทำให้ไม่ต้องเปิดหน้าจอ