การจดบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ เป็นประโยชน์ในการควบคุมการใช้เงินให้อยู่หมัดขึ้น แต่ถ้าจะให้ไปจดในสมุดเราคงต้องมีลืมกันแน่นอน และบางทีอาจจะหายและจัดการข้อมูลยากด้วย ดังนั้นแอพที่จะมาช่วยเราบันทึกรายรับรายจ่ายได้แบบครอบจักรวาลก็คือแอพ Money Lover แอพนี้นี่เอง

[appbox googleplay com.bookmark.money]

[appbox appstore 486312413]

[appbox windowsstore 9wzdncrdrg5v]

แอพ Money Lover เป็นแอพที่สามารถช่วยเราทำบันทึกรายรับรายจ่ายได้อย่างละเอียดมาก เหมาะสมกับคำว่าครอบจักรวาลสุดๆ เพราะจดได้ทั้งรายการธรรมดา เพื่อนยืมเงิน เงินออม ค่าใช้จ่ายขณะไปเที่ยว ฯลฯ คือแค่แอพเดียวก็เกินพอแล้ว นอกจากนี้ยังทำรายงานเป็นสรุปออกมาให้เราดูได้อีกด้วย

การใช้งานทีแรกก็ค่อนข้างจะงงอยู่เพราะมีฟีเจอร์เยอะมาก เลยไม่รู้ว่าจะเริ่มที่ตรงไหน แต่ถ้าดูดีๆ แล้วการใช้งานก็ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนชัดเจน ในหน้าหลักของแอพก็จะบอกว่าในเดือนนี้เรามีการใช้จ่ายไปเท่าไรแล้ว ได้มาเท่าไรและใช้ไปเท่าไร และแสดงรายการการเงินต่างๆ อย่างชัดเจน สรุปก็คือเป็นหน้ารวมรายรับรายจ่ายต่างๆ ในแต่ละเดือนนั่นเอง โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะดูจากบัญชีไหน (เพิ่มเองได้)

[su_row][su_column size=”1/2″][/su_column]
[su_column size=”1/2″][/su_column][/su_row]

ในหน้า Future ก็ยังคำนวณให้เราอีกว่ารายจ่ายล่วงหน้า 3 เดือนจะมีเท่าไร โดยอิงจากบิลและรายการใช้จ่ายที่จะต้องจ่ายเป็นรอบๆ อย่างเช่นค่าโทรศัพท์รายเดือน

การเพิ่มรายรับหรือรายจ่ายทำได้ด้วยการแตะที่ปุ่ม (+) ด้านล่าง จะมีช่องให้ใส่จำนวนเงิน (แปลงค่าเงินได้ในตัวตอนเพิ่มจำนวนเงิน สะดวกมาก) จากนั้นก็เลือกหมวดหมู่ว่าเป็นรายรับหรือรายจ่าย ซึ่งเป็นไอคอนที่ดูสะดวกและมีพอสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต่อมาก็ใส่โน้ตได้ว่าเกี่ยวกับอะไร (ผมจะใส่ชื่อบริษัท เช่นซื้อของที่ร้าน xxx ก็ใส่ xxx) แอพจะเก็บข้อมูลได้ว่าเราใช้จ่ายตรงส่วนนี้ไปเท่าไรแล้ว นอกจากนี้ก็เลือกได้ว่าจ่ายเป็นเงินสดหรือจ่ายจากบัญชีอื่นๆ เช่นธนาคารหรือบัตรเครดิต

[su_row][su_column size=”1/2″][/su_column]
[su_column size=”1/2″][/su_column][/su_row]

ฟีเจอร์หนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะถูกใจใครหลายคนก็ตรงที่มันจดได้ด้วยว่าใครยืมเงินเราไป และเรายืมเงินใครไป ซึ่งมันละเอียดถึงกับว่าจดได้ด้วยว่าคืนเท่าไรแล้ว และยังเหลืออีกเท่าไร

[su_row][su_column size=”1/2″][/su_column]
[su_column size=”1/2″][/su_column][/su_row]

แท็บ Trends คือการสรุปรายรับรายจ่ายมาเป็นรายงานให้เราว่าแต่ละเดือนใช้ไปเท่าไรบ้าง เลือกดูได้ทั้งรายจ่าย รายรับ รายได้สุทธิ และยอดคงเหลือ ซึ่งสามารถเลือกดูเป็นหมวดหมู่แทนเป็นเวลาได้ด้วย

[su_row][su_column size=”1/2″][/su_column]
[su_column size=”1/2″][/su_column][/su_row]

ในแท็บ Budgets เราก็สามารถจำกัดวงเงินการใช้จ่ายในแต่ละหมวดหมู่หรือทั้งหมดได้ ว่าเดือนนี้ ปีนี้ หรือในช่วงเวลาที่เรากำหนดจะใช้ไม่เกินเท่าไร

แท็บ Savings ก็เป็นเมือนการหยอดกระปุกออมสิน อย่างเราอยากจะเก็บเงินซื้ออะไรบางอย่างก็สามารถมาสร้างเป็นเป้าหมายการออมได้ ซึ่งเงินที่เราเพิ่มหรือถอนออกมาจากกระปุกออมสินจะไม่ไปรวมอยู่ในยอดเงินหลัก เราสามารถตั้งได้ว่าจะเก็บเงินให้ทันภายในวันที่เท่าไร

[su_row][su_column size=”1/2″][/su_column]
[su_column size=”1/2″][/su_column][/su_row]

Events เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่คนไปเที่ยวบ่อยๆ น่าจะชอบ เพราะเป็นการสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาว่าใช้จ่ายในโครงการอะไร (เช่นอาจจะเป็นการทำงาน หรือทริปไปเที่ยว) และยังมี Travel Mode ที่ทำให้การใช้จ่ายระหว่างวันที่เราไปเที่ยว เข้ามาอยู่ใน Event นั้นๆ โดยอัตโนมัติ โดยแอพจะรู้ได้จากวันที่ที่เราตั้งไว้ว่า Event นี้เริ่มและสิ้นสุดวันไหน

แท็บ Bills เป็นการบันทึกบิลค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องจ่ายเป็นรอบๆ ไป เช่น ค่าโทรศัพท์รายเดือน เราสามารถตั้งได้ว่าจะตัดเงินจากบัญชีใด และจ่ายทุกรอบใด (รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์ รายปี)

แท็บ Recurring Transaction จะคล้ายๆ กันกับ Bills แต่ว่าต่างกันตรงที่มันจะตัดเงินอัตโนมัติ ไม่ได้เตือนให้เราจ่ายเองเหมือนกับ Bills

ทั้งหมดนี้ก็เป็นฟีเจอร์หลักๆ ของแอพ Money Lover ครับ แต่ตัวแอพเองก็ยังมีลูกเล่นอื่นๆ ด้วย อย่างเครื่องมือการแปลงค่าเงิน, การส่งออกเป็นไฟล์ PDF หรือ CSV, เครื่องมือหาตู้เอทีเอ็ม และเครื่องมือคำนวณทิปเป็นต้น สมกับคำว่าครอบจักรวาลจริงๆ สำหรับแอพ Money Lover