Hyphen เป็นหูฟังบลูทูธจาก Rolling Square ที่เปิดระดมทุนผ่านเว็บไซต์ Indiegogo ไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีที่ผ่านมา รวมเงินสนับสนุนที่ได้รับกว่า 40 ล้านบาท โดยมุ่งจะเป็นหูฟังไร้สายที่ราคาไม่แพง แต่ได้คุณภาพระดับพรีเมียม
การออกแบบ
หูฟังบลูทูธราคาไม่แพงบางรุ่นมักมีหน้าตาคล้าย AirPods ของแอปเปิล แต่ไม่ใช่กับ Hyphen ที่มีหน้าตาต่างออกไป จะมีความเหลี่ยมและความสปอร์ตมากกว่า มีสีให้เลือกสามสี ได้แก่ ดำ เทา และขาว
![](https://i0.wp.com/thehaptic.co/wp-content/uploads/2019/08/hyphen-earbuds-1024x684.jpg?resize=750%2C501&ssl=1)
วัสดุของหูฟัง Hyphen เป็นพลาสติกแบบด้าน อาจจะไม่ได้ดูพรีเมียมมาก แต่มีความเรียบเนียน ทั้งนี้ผมพบว่ายังเก็บรายละเอียดไม่เรียบร้อยนัก ตรงรูบางส่วนยังเหมือนเจาะไม่สุด และงานประกอบที่อาจจะดูราคาถูกไปบ้าง
กล่องใส่หูฟังเป็นกล่องพลาสติกสี่เหลี่ยมขอบมนผิวด้าน มีน้ำหนักเล็กน้อยเพราะมีแบตเตอรี่ในตัว ฝาเป็นฝาครอบธรรมดาจึงอาจต้องใช้สองมือในการเปิด กล่องมีขนาดไม่ใหญ่ แต่ด้วยความหนา 3 เซนติเมตรก็หนาเกินกว่าจะใส่กระเป๋ากางเกงได้แบบสบาย
![](https://i0.wp.com/thehaptic.co/wp-content/uploads/2019/08/hyphen-case.jpg?resize=750%2C501&ssl=1)
การใช้งาน
Hyphen ใช้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นผ่านบลูทูธ 5.0 เมื่อหยิบออกมาจากกล่องแล้วจะเปิดการทำงานและเชื่อมต่ออัตโนมัติ สามารถใช้งานเฉพาะข้างขวาอย่างเดียว หรือใช้งานสองข้างตามปกติก็ได้
Hyphen มาพร้อมกับระบบควบคุมด้วยการสัมผัสที่ตัวหูฟังทั้งสองข้าง เช่น แตะหนึ่งทีเพื่อเล่น/หยุด แตะค้างสั้นๆ ที่หูฟังขวาเพื่อเพิ่มเสียง แตะค้างสั้นๆ ที่หูฟังซ้ายเพื่อลดเสียง หรือจะแตะค้างเพื่อเรียกผู้ช่วยส่วนตัว (เช่น Google Assistant และ Siri) ซึ่งการควบคุมแบบสัมผัสนี้มีประมาณ 10 แบบ
![](https://i0.wp.com/thehaptic.co/wp-content/uploads/2019/08/hyphen-ear-1024x684.jpg?resize=750%2C501&ssl=1)
ระบบการควบคุมด้วยการสัมผัสเป็นทั้งฟีเจอร์ที่ดีและยังเป็นจุดที่น่ารำคาญของ Hyphen ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากในขณะที่กำลังจับหูฟังเพื่อสวมใส่หรือเวลาจัดให้เข้ากับหู บ่อยครั้งนิ้วเราจะไปโดนกับบริเวณรับสัมผัสได้ง่ายมาก ถือเป็นข้อเสียที่น่ารำคาญใจเพราะรับสัมผัสง่ายเกินไป
ในเรื่องเสียงผมไม่ได้คาดหวังมากเท่าไรกับหูฟังไร้สายราคานี้ (1,500 บาทช่วงระดมทุน) ที่อัดฟีเจอร์มาหลายอย่างด้วย แต่ Hyphen สามารถให้เสียงที่ดีพอสมควร มีเบสบ้าง เสียงมีมิติเล็กน้อย และยังสามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยโครงสร้างของจุกหูฟัง (ไม่ใช่ตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ)
โดยรวมจึงถือว่าเสียงไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ก็ไม่ได้แย่
![](https://i0.wp.com/thehaptic.co/wp-content/uploads/2019/08/hyphen-right.jpg?resize=750%2C501&ssl=1)
จากการใช้งานยังไม่เคยเจอปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อบลูทูธ สามารถฟังได้สัญญาณไม่หลุด และการเชื่อมต่อกับมือถือก็ทำได้รวดเร็ว แต่ปัญหาหนึ่งคือสำหรับผมแล้วตัวหูฟังไม่ค่อยแน่นกับหูเท่าไร จึงเคลื่อนออกมาบ่อยๆ จัดเท่าไรก็ไม่เข้ารูปกับหูเลย
แบตเตอรี่
ในเว็บของ Hyphen ให้รายละเอียดว่าแบตเตอรี่ของตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ 5 ชั่วโมง และยังมีแบตเตอรี่จากกล่องใส่หูฟังที่เพิ่มเวลาให้อีก 23 ชั่วโมงเมื่อเก็บหูฟังลงในกล่อง
จากการใช้งานของผมที่ไม่ได้ฟังต่อเนื่องนานอยู่แล้ว ส่วนมากก็ฟังบนรถวันละหนึ่งชั่วโมง ก็ไม่ได้พบว่าแบตเตอรี่ลดลงเท่าไร และก็ยังไม่เคยใช้จนแบตฯ หมดด้วย ผมก็มั่นใจว่าน่าจะสามารถใช้งานได้ 5 ชั่วโมงอย่างที่โฆษณาจริงๆ หรืออาจจะมากกว่านั้นด้วย
ตัวกล่องใส่หูฟังรองรับการชาร์จไร้สายกับแท่นชาร์จมาตรฐาน Qi ด้วย เพียงแค่ว่างกล่องลงไปก็จะเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ของกล่อง ซึ่งก็สามารถเก็บหูฟังไว้ข้างในเพื่อชาร์จไปพร้อมๆ กันได้ แต่อย่างที่บอกว่าผมไม่ได้ใช้งานนานอยู่แล้ว จึงไม่ค่อยได้ชาร์จแบตฯ ด้วย ดังนั้นเรื่องแบตเตอรี่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
สรุป
Hyphen เป็นหูฟังไร้สายที่มีฟีเจอร์เด่นคือการควบคุมแบบสัมผัส ทำให้เราเปลี่ยนเพลง ปรับระดับเสียง ควบคุมอะไรต่างๆ ได้ผ่านการแตะบนตัวหูฟัง แต่ในด้านคุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ แบตเตอรี่ใช้ได้นาน รองรับการชาร์จไร้สาย ส่วนดีไซน์ต่างจากหูฟังไร้สายรุ่นอื่นซึ่งถือเป็นข้อดี แต่งานประกอบยังไม่เรียบร้อย
Hyphen จะวางจำหน่ายในราคา 139 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจบแคมเปญ Indiegogo ดังนั้นสำหรับใครที่เพียงต้องการหูฟังไร้สาย ไม่ได้ต้องการระบบควบคุมแบบสัมผัส Xiaomi Redmi Airdots จึงอาจเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
Hyphen
สรุป
การควบคุมแบบสัมผัสเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะไวต่อการสัมผัสเกินไป เสียงพอใช้ แบตเตอรี่ใช้ได้นานไม่ต้องชาร์จบ่อย และชาร์จไร้สายได้ ทั้งหมดนี้ถูกรั้งไว้ด้วยงานประกอบที่ยังไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร
User Review
( vote)